กรงนก ท่ามกลาง อิสระภาพ

กรงนก ท่ามกลาง อิสระภาพ

วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Music of Germany ดนตรีของประเทศเยอรมนี

ถ้าจะว่าตามกันความรุ่งเรืองในประวัติศาสตร์ของดนตรีโลกแล้วนั้น ดนตรีของประเทศเยอรมันนีจะเริ่มรุ่งเรืองในช่วงของ ยุค Baroque Period (1600-1750) ซึ่งเป็นยุคที่วิชาดนตรีของโลกได้เริ่มเป็นปึกแผ่นและมีรากฐานมากขึ้น ความเจริญทางด้านนาฎดุริยางค์มีมากขึ้น นักดนตรีที่มีอิทธิพลอย่างมากในสมัยนั้น เช่น J.S. Bach (1685-1750)  และ Handel (1685-1759) เป็นต้น


นักดนตรีเอกของเยอรมันที่มีอิทธิพลต่อโลกของเราอาทิ


โจฮันน์ เซบัสเตียน บาค (Johann Sebastian Bach)
เกิดที่ ไฮเซนาค เยอรมันนี 21 มีนาคม ค.ศ.1685
ตายที่ ไลฟ์ซิก เยอรมันนี 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1750


          บาคเป็นนักไวโอลินฝีมือดี และมีอาชีพเป็นนักดนตรีประจำอยู่ที่เมืองไอเซนาค และแม่ชื่อ Elisabeth Lammerhirt Bach ตระกูลของบาคเป็นตระกูลใหญ่และเก่าแก่มาก ดำเนินอาชีพทางดนตรีสืบต่อกันมาเป็นเวลานานกว่าสองทศวรรษ อาจารย์คนแรกที่สอนให้บาครู้จักกับดนตรีนั้นก็คือพ่อของเขา ซึ่งท่านไ้ด้สอนเล่นไวโอลินและไวโอล่า เพลงที่มีชื่อเสียงของบาคอย่างเช่น เพลง Brandenburg Concertos และ Violin Concertos เป็นต้น





ยอร์จ เฟรเดริค ฮันเดล (George Frederick Handel)
เกิดที่ ฮัลเล เยอรมันนี 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1685
ตายที่ ลอนดอน อังกฤษ 14 เมษายน ค.ศ. 1759


         ฮัลเดล เป็นคีตกวีผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของดนตรี เขาเป็นนักแต่งเพลงอุปรากรชื่อดังแห่งยุค เป็นนักแต่งเพลงเกี่ยวกับศาสนาที่ลือชื่อ แม้ในปัจจุบันพอถึงวันคริสต์มาสโบสถ์คริสตศาสนาทั่วโลกยังเล่นเพลง Messiah ของเขาอยู่ เบโธเฟน นักดนตรีและนักแต่งเพลงบันลือนาม ยังได้กล่าวยกย่องฮันเดลว่า "ดนตรีของฮัลเดลเป็นแบบที่มีท่วงทำนองง่ายๆเรียบๆ แต่ทว่ามีความไพเราะอย่างลึกซึ้งควรแก่การศึกษาเป็นอย่างยิ่ง"
          ฮัลเดลชอบดนตรีมาแต่เล็กแต่น้อย แต่พ่อไม่อยากจะให้ลูกเป็นนักดนตรี เพราะ้เป็นอาชีพที่ไม่ทางจะหาความร่ำรวยได้ และนักดนตรีส่วนมากมีแต่ความขัดสนยากจนทั้งนั้น พ่ออยากให้ลูกชายเรียนวิชากฎหมาย เพราะสมัยนั้นอาชีพกฎหมายกำลังเฟื่อง จึ่งส่งเสริมให้เรียนหนักไปทางวิชาการ เพื่อจะเข้าศึกษาต่อกฏหมายได้ เมื่อเรียนจบการศึกษาขึ้นต้นแล้ว แต่ฮัลเดลก็แอบไปหัดเล่นดนตรีทุกคืนและปิดบังไม่ให้พ่อรู้เรื่องนี้ เพลงที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขาอย่างเช่น Eleven Chandos Anthems และ Esther ซึ่งเป็นเพลงประเ้ภท Oratorio เป็นต้น


คริสโตฟ วิลลิบาลด์ กลุ๊ด (Cristoph Willibald Gluck)
เกิดที่ Erasbach เยอรมันนี 2 กรกฎาคม ค.ศ.1714
ตายที่ เวียนนา อิตาลี 15 พฤศจิกายน ค.ศ.1787

          กลุ๊ด เป็นคีตกวีและนักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลก ชีวิตของเขามีลีลาผิดแผกไปจากคีตกวีที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ทั้งนี้ก็เำพราะว่าขณะเขามีอายุเกือบ 40 ปีนั้น ยังไม่มีท่าทางเลยว่าเขาจะมากลายเป็นผู้ยิ่งใหญ๋แห่งโลกดนตรี 
           แรงบันดาลใจที่ทำให้เขาอยากเป็นนักดนตรีนั้น อยู่ในระหว่างปี ค.ศ.1726-1732 ในวิชาวิทยาศาสตร์และดนตรี ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ได้รับการศึกษาทางดนตรี ต่อมาก็เดินทางไปยังกรุงปร๊าคเพื่อเรียนการร้องเพลงในโบสถ์ และเรียนออร์แกน ไวโอลิน เชลโล ตลอดจนคลาเวียร์ กลุ๊คเรียนอย่างเอาจริงเอาจัง จนได้รับความชมเชยจากบรรดาครูบาอาจารย์อยู่เนืองๆ เขาได้ฟัเพลงจุลอุปรากรของเยอรมันอยู่เสมอจึงทำให้กลุ๊คมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักแต่งเพลงเหลือเกิน งานที่มีชื่อเสียงของเขาอย่างเช่น อุปรากรเรื่อง Roland และ Armide เป็นต้น 
            กลุ๊คนับว่าเป็นบุคคลสำคัญอย่างยิ่งคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ยุคแรกเริ่มของอุปรากร ในฐานะผู้ผู้บุกเบิกทางให้แก่อุปรากรสมัยใหม่


ลุดวิก ฟาน เบโธเฟน (Ludwig Van Beethoven)
เกิดที่ บอนน์ เยอรมันนี 16 ธันวาคม ค.ศ. 1770
ตายที่ เวียนนา ออสเตเรีย 26 ธันวาคม ค.ศ. 1827


            ในชีวิตของนักดนตรีและนักประพันธ์เพลงที่ยิ่งใหญ่ผู้นี้ อาจกล่าวได้ว่ามีความมืดมากกว่าความสว่าง เขาเกิดในครอบครัวที่ีฝืดเคืองแร้นแค้นยากจน พ่อของเขามีอาชีพเป็นนักร้องเสียงเทนเนอร์ประจำวงดนตรีของเจ้าเมือง เบโธเฟนเป็นลูกคนที่ 2 ในจำนวนทั้งหมด 7 คน เบโธเฟนเป็นเด็กที่มีสาระรูปขี้เหร่เงียบขรึม ขี้อาย พ่อเริ่มสอนไวโอลินและเปียโนให้ก่อนที่มีอายุ 4 ขวบ แต่เขาเล่นได้ไม่ดีดังใจหวัง จึงทำให้พ่อโมโหและเอาไม้เคาะที่ตาตุ่มบ่อยๆ เพราะพ่อของเขามีความฝันอยากให้ลูกมีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนกับโมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) ดังนั้นเขาจึงเคี่ยวเข็ญให้ลูกฝึกดนตรีอย่างเข้มงวดกวดขันเป็นที่สุด
              จากความพยายามของพ่อนี้เอง ต่อมาลุดวิก ฟาน เบโธเฟน ก็เริ่มมีความรู้สึกมีความรักดนตรีขึ้นมาบ้าง ตอนที่เขามีอายุได้ 8 ขวบนั้นก็ได้ออกโรงแสดงคอนเสริต์ต่อหน้าประชาชนเป็นครั้งแรก ปรากฎว่าได้รับการปรบมือจากผู้ฟังอย่างเกรียวกราวและชื่นชน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของนักดนตรีนามว่าลุดวิก ฟาน เบโธเฟนนี้เอง ผลงานที่มีชื่ีอเสียงของเขาอย่างเช่น Pastoral Symphonty และ Mammoth Ninth Symphony ซึ่งใช้เวลาเขียนถึง 6 ปี เป็นต้่น



คาร์ล มาเรีย ฟอน เวเบอร์ (Carl Maria von Weber)
เกิดที่ Eutin, Oldenburg เยอรมันนี 18 พฤศจิกายน ค.ศ.1786

ตายที่ ลอนดอน อังกฤษ 5 มิถุนายน ค.ศ.1826


          ชีวิตในตอนปฐมวัยของเขานั้นไม่มีใครคาดฝันเลยว่า เขาจะกลายเป็นคีตกวีและนักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ของโลก เพราะตอนนั้นเขาไม่มีแววทางดนตรีแม้แต่น้อย พี่ชายต่างมารดาของเขาพยายามสอนดนตรีเขาอยู่เป็นเวลานาน แต่เขาก็ไม่สามารถเล่นเปียโนได้ดังใจหวังของพี่ชาย ทำให้พี่ชายของเขาโมโหเป็นอย่างมาก จึงได้ด่า คาร์ล ว่าเขาไม่มีวันเป็นนักดนตรีได้อย่างแน่นอน แต่พ่อของเขาไม่เห็นด้วย พ่อจึงพยายามฝึกสอนให้เขานั้นเล่นเปียโนและไวโอลินอย่างจริงจัง แต่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะเป็นนักดนตรีขึ้นมาเลย แต่พ่อของเขานั้นมีวงดนตรีซึ่งเที่ยวแสดงเร่ไปตามที่ต่างๆ แบบละครเร่ ฉะนั้นการที่เขาได้เกิดมาในท่ามกลางนักดนตรี ทำให้คาร์ลนั้นมีความมุมานะเล่นดนตรีจนได้
          ผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขาอย่างเช่น Symphony No.1 in C Major และ Concerito สำหรับใช้กับฮอร์น (Horn) เป็นต้น